วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

HULK

ผู้ให้กำเนิด : สแตน ลี และ แจ๊ค เคอร์บี้ 

ชื่อยามเป็นมนุษย์ : บรูซ แบนเนอร์ 

เขาเป็นใคร : ฮัลค์ หรือ ดร.บรูซ แบนเนอร์ ในยามปกติเป็นนักฟิสิกส์ผู้ประสบอุบัติเหตุรังสีแกมม่าระเบิดระหว่างทดลองแม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่โกรธหรือโมโหสุดขีด เขาจะกลายร่างเป็น เดอะ ฮัลค์ ยักษ์ใหญ่สีเขียว พร้อมอารมณ์ที่ฉุนเฉียวสุดๆโดยสิ่งสิ่งที่ทำให้ เดอะ ฮัลค์ แตกต่างจากซุปเปอร์ฮีโร่อื่นๆ คือไม่เขาสามารถเลือกได้ว่าอยากจะเป็น เดอะ ฮัลค์ เมื่อไหร่ เพียงแค่มีอะไรมาสะกิดอารมณ์อย่างแรง ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์โกรธ, หวาดกลัว, หรือเศร้าโศกเสียใจ เขาก็พร้อมจะกลายร่างได้ทันที 



เบื้องหลังอีโร่ 

เกิดจากการสร้างสรรค์ของ สแตน ลี นักเขียนและบรรณาธิการ และ แจ๊ค เคอร์บี้ นักวาดและผู้ร่วมคิดพล๊อตเรื่อง โดย สแตน ลี ต้องการสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาซักตัว สัตวต์ประหลาดที่ดีแต่ไม่มีใครล่วงรู้ถึงความดีของมัน ทั้งยังสามารถเกิดกับมนุษย์ธรรมดาได้อึกด้วย ประกอบกับเขาได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสยองขวัญในอดีตอย่าง Frankenstein ( 1931 ) และ Dr. Jekyll and Mr. Hyde ( 1931 ) จนออกมาเป็นตัวละคร เดอะ ฮัลค์ ในที่สุด 



ความเป็นมาของฮีโร่ 

ดร. บรูซ แบนเนอร์ จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ได้ทำการทดลองสร้างระเบิดรังสีแกมม่าให้กับกระทรวงกลาโหมของสหรัส 
ณ ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ในรัฐนิวเม็กซิโก ระหว่างที่กำลังสาธิตอยู่นั้น ริค โจนส์ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งได้เข้าไปเตร็ดเตร่อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในบริเวณที่ระเบิดเวลากำลังเดินถอยหลังบรูซรีบเข้าไปช่วยริค อย่างไม่ห่วงชีวิต แต่เขากลับติดอยู่ในห้องทดลองเสียเอง ทำให้โดนระเบิดรังสีแกมม่าเข้าไปเต็มๆ แต่เขากลับรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ 

บรูซพบว่าเขาได้กลายร่างเป็น ฮัลค์ ยักษ์ใหญ่สีเทาที่มีนิสัยโหดเหี้ยมในยามที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก่อนจะกลับมาเป็นบรูซคนเดิมเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น จนในที่สุด เขาต้องกลายร่างเป็นฮัลค์สีเขียวซึ่งเกิดจากสารอะดรีนาลีนถูกปล่อยออกมาในยามที่มีอะไรมาสะกิดอารมณ์อย่างแรง โดยฮัลค์นั้นจะมีความทรงจำและสติปัญญาของบรูซเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังขี้โมโหและฉุนเฉียวง่ายจนกลายเป็นภัยสังคมไปโดยปริยาย 

 

เมื่อการแปลงร่างของบรูซล่วงรู้ถึงหู นายพลเท็ดดิอุส รอสส์ แห่งกองทัพสหรัฐ พ่อของ เบ็ตตี้ รอสส์ นักฟิสิกส์สาวคนรักและว่าที่ภรรยาของบรูซ ทำให้เขาสั่งกองกำลังทหารออกตามล่าบรูซอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่ห่วงความรู้สึกของแบ็ตตี้เลยแม้แต่น้อย 

ในช่วงเวลาสั้นๆ บรูซก็สามารถรักษาอาการผิดปกติของเขาด้วยรังสีบำบัด ที่ทำให้เขาคงไว้ซึ่งบุคลิกและความรู้สึกนึกคิดของเขาเองในระดับหนึ่งเมื่อกลายร่างเป็นฮัลค์ หลังจากนั้น บรูซได้ร่วมก่อตั่งทีม ดิ อเวนเจอร์ส และได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดี แต่แล้วในที่สุด ฮัลค์ก็กลับสู้สภาพเดิม นั่นคือดุร้ายดิบเถื่อนเยี่ยงสัตว์ป่า 

เลียวนาร์ด “ด๊อก” แซมสัน จิตแพทย์ผู้ชำนาญด้านรังสีแกมม่าได้จับตัวฮัลค์ไปและแยกฮัลค์ออกจากตัวบรูซได้สำเร็จ เมื่อฮัลค์ไร้ซึ่งความร็สึกนึกคิดของบรูซแล้ว มันก็กลายเป็นตัวอันตรายอย่างสมบูรณ์แบบ และวิธีเดียวที่จะกำราบฮัลค์ได้ก็คือรวมร่างของมันเข้ากับบรูซ ซึ่งเขาเองก็ยอม ก่อนจะพบว่าการรวมร่างกันอีกครั้งนั้นทำให้บรูซเกิดความเครียดอย่างหนักจนจิตใต้สำนึกแตกแยก ส่งผลให้เขา กลายร่างเป็นอัลค์สีเทาออกเพ่นพ่านตามถนนหนทางในที่สุด 

ในช่วงนี้เองที่บรูซได้ไปอยู่ที่ ลาส เวกัส เป็นเวลาหลายปี โดยรับหน้าที่เป็นคนโฉดใช้กำลังข่มขู่ลูกค้าในบ่อนภายใต้ชื่อ โจ ฟิกซ์อิท ที่แสนจะฉลาดพูดจาคมคายแม้จะอารมณ์ร้ายก็ตาม ดดยบุคลิกใหม่ของเขาไกล้เคียงกับพ่อและเพื่อนๆ สมัยวิทยาลัย ในช่วงเดียวกันนี้ เขายังได้สานสัมพันธ์ระยะสั้นๆ กับ มาร์โล แซนด์เลอร์ ว่าที่ภรรยาในอนาคตของ ริค โจนส์ โดยเขากลายร่างเป็นฮัลค์ในยามค่ำคื่นก่อนจะกลายร่างกลับในยามเช้า 


หลังจากที่บรูซต้องเผชิญหน้ากับความแปรปรวนด้านบุคลิกและอารมณ์อันหลากหลาย การต่อสู้ภายในจิตใจเพื่อแย่งร่างกายและความคิดของเขาจึงเกิดขึ้น แต่ด้วยการช่วยเหลือของ ริงมาสเตอร์ และความสามารถในการสะกดจิตของเขา ช่วยให้ด๊อกสามารถดำดิ่งเข้าสู่จิตใต้สำนึกและบุคลิกอันแตกแยกของบรูซ ทำให้บุคลิกของทั้ง บรูซ,ฮัลค์,และโจ มาเผชิญหน้ากับปีศาจในตัว นั้นคือด้านมืดของบรูซซึ่งเป็นปมภายในใจที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาเกี่ยวกับพ่อที่ชอบทุบตีเขาในวัยเด็กและฆาตกรที่พรากแม่ไปจากเขา เมื่อตระหนักได้ถึงตัวตนที่แท้จริง เขาก็สมารถรวมบุคลิกต่างๆ เข้าด้วยกันและพบความสงบในที่สุด อย่างไรก็ตาม แทนที่จะกลับไปเป็นร่างของบรูซ เขากลับกลายเป็นร่างยักษ์ใหญ่สีเขียวของฮัลค์ ซึ่งแม้จะมีพละกำลังและความสามารถแบบฮัลค์ แต่กลับมีความรู้สึกนึกคิดและความฉลาดแบบบรูซ 

 

หลังจากนั้น บรูซก็จำต้องควบคุมสภาพอารมณ์ของตนอีกครั้งเพราะเขาเริ่มที่จะควบคุมความเดือดดาลไว้ไม่อยู่ ก่อนจะถูกเจ้าฮัลค์เขี้ยวยักษ์ผู้ป่าเถื่อนเข้าครอบงำไปในที่สุดแม้ว่าจะยังอยู่ในร่างของบรูซเองก็ตาม แค่นี้บรูซก็คิดว่าตัวเองเป็นตัวอันตรายแสนสาหัสอยู่แล้ว แต่ในเวลาต่อมา ระหว่างที่ถูกโจมตีจาก ออนสล๊อท เขาได้ขอให้ จีน เกรย์ สมาชิกทีมเอ็กซืเมน ช่วยปลดปล่อยเข้าฮัลค์ออกจากจิตเพื่อเขาจะได้ใช้พลังสบยเข้าออนสล๊อทอย่างราบคาบ แต่แทนที่จะเป็นไปตามนั้น กลายเป็นว่าเขากลับถูกแบ่งภาค โดยร่างของฮัลค์ยักษ์เขียวป่าเถื่อนได้ไปโผล่ในโลกคู่ขนาน ส่วนอึกภาคที่เหลืออยู่บนโลกก็ยังคงเป็นเจ้าฮัลค์ยักษ์เขียว เพียงแต่จะแลดูนิ่งๆ เย็นชาไร้อารมณ์ แม้จะยังคงความเฉลียวฉลาดดังเดิมก็ตาม 

หลังจากที่ผ่านไประยะหนึ่ง จิตสำนึกของบรูซก็ตื่นขึ้น และพบว่าตัวเองถูกขังอยู่ใน”นรกส่วนตัว” นั้นคือในจิตใต้สำนึกและถูกหลอกหลอนด้วยความทรงจำเกี่ยวกับพ่อของเขา ตัวตนของเขาในอนาคตหรือ เดอะ แมสโทร เดอะ ลีดเดอร์ และตัวตนในอดีตอย่าง บรูซ แบนเนอร์ กับฮัลค์ ก่อนที่เขาจะหลุดพ้นเป็นอิสระด้วยการตระหนักถึงความแข็งแกร่งจากภายในประกอบกับในหน้าของเบ๊ตตี้ หญิงผู้เป็นรักแท้ของเขา ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าทำให้เขาเอาชนะความกลัวภายในจิตใจได้ในที่สุด 

ในเวลาต่อมา ฮัลค์ได้ร่วมมือกับ ก๊อกเตอร์สเตรนจ์ เจ้าแห่งไสยศาสตร์ และ นามอร์ หรือซับมารีนเนอร์แห่งแอตแลนติก ต่อกรกับ แยนโดร๊ท พ่อมดแห่งเทคโนโลยีที่มาพร้อมโอเมกาตรอน คอมพิวเตอร์อัจฉริยะของมัน ทั้งสามร่วมมือกันปราบเหล่าร้ายอยู่เป็นพักๆ อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก พวกเขาไม่ได้ตั้งทีมขึ้นมาแต่ประการใด เพียงแค่รวมตัวกันยามเกิดวิกฤติก็เท่านั้น 

หลังจากนั้น บรูซก็หลบไปปลีกวิเวก ณ ดินแดนอันเงียบสงบและห่างไกลอย่างอลาสก้า ก่อนจะถูก นิค ฟิวรี่ หัวหน้าหน่วยชีลด์ ตามมาขอให้เขาช่วย กำจัด ก๊อตส์อาย อาวุธอวกาศของพวกไฮดร้า (กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งทางตะวันออก) ที่สามารถจุดชนวนระเบิดนิวเคียร์ทุกลูกบนโลกได้ บรูซในร่างฮัลค์จึงถูกส่งขึ้นไปอวกาศก่อนจะพบว่า ที่จริงแล้วก๊อตส์อายนั้นเป็นอาวุธชั่วร้ายของหน่วยชีลด์ที่สามารถปรับความแข็งแกร่งของตนให้เข้ากับคู่ต่อสู้ แต่มันกลับไม่สามารถปรับความแข็งแกร่งให้เข้ากับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของฮัล์ค จนในที่สุดก๊อตส์อายก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆจากนั้นหน่วยชีลด์ก็นำกระสวยอวกาศไปรับตัวฮัลค์กลับมา แต่กลุ่มซูเปอร์ฮีโร่นามว่า อิลลูมินาติ ตัดสินใจสละทิ้งทั้งกระสวยอวกาศและตัวฮัลค์บนดาวที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิ ทว่าระบบนำวิถีได้เกิดความผิดพลาด ส่งผลให้ฮัลค์ถูกทิ้งบนดาวซาคาร์ซึ่งเต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์ป่าเถื่อนที่ชื่นชอบการประลองต่อสู้และปกครองโดยจักรวรรคดิโฉด เรดคิง ฮัลค์ซึ่งอ่อนแอจากการเดินทางได้ถูกจับไปขายเป็นทาสเพื่อให้ประลองกันจนตายไปข้างหนึ่ง ณ เดอะ เกรต เอเรียน่า โดยการประลองครั้งแรกนั้น ฮัลค์เป็นฝ่ายชนะและได้รับการอภัยโทษจากเรดคิง แต่เรดคิงกลับโจมตีฮัลค์ขณะที่ฮัลค์กำลังว้าวุ่นจนล้มทรุดลง หลังจากการประลองครั้งนั้น ฮัลค์ก็ได้ร่วมมือกับคนอื่นๆ ในเผ่าฝึกฝนจนฝีมือแก่กล้าและก่อตั้งเป็นกลุ่มนักสู้ที่มีชื่อว่า วอร์บาวนด์ ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวดาวเคราะห์แห่งนี้ ให้การก่อกบฏเพื่อลิ้มบัลลังก์เรดคิง 

 

กลุ่มวอร์บาวนด์ถูกบังคับให้สู้กับ ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ ที่ถูกจับตัวมาและถูก ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ โจมตีอย่างหนักหน่วง ฮัลค์โกรธจัดจึงเข้าซัด ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ จึงได้ทำลายพันธนาการที่ล่ามไว้ เมื่อเป็นอิสระ ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ จึงได้ทำลายพันธนาการของนักรบวอร์บาวนด์ ทั้งหมดยื่นข้อเสนอว่าจะส่งฮัคกลับสู่โลก แต่ฮัลค์ปฏิเสธเพื่อสะสางสิ่งต่างๆ บนดาวซาคาร์ให้จบสิ้น นั้นคือการโค่นล้มเรดคิง จนได้รับชัยชนะในที่สุด ฮัลค์ได้รับสถาปนาให้เป็นกรีนคิง (กัตริย์เขียว) เคียงคู่กับราชินีไคอีร่า ที่ประสงค์จะมีทายาทกับฮัลค์ อันเป็นการจบชีวิตการต่อสู้ของเขาไปโดยปริยาย 

แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างฮัลค์นัก เมื่อยานที่เขาเดินทางไปได้เกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้ภรรยาและลูกในท้องเสียชีวิต ทำให้ฮัลค์เดือดดาลถึงขีดสุด เขาและกลุ่มวอร์บาวนด์จึงได้เดินทางมายังโลกเพื่อแก้แค้นบรรดาฮีโร่ที่มีส่วนในการสูญเสียของเขา โดยเขาได้จัดการขยี้ แบล็คโบล์ท ก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อยึดเมืองนิวยอร์คเป็นสมรภูมิในการต่อสู้ เหมือนกับเวทีประลองเมื่อครั้งยังเป็นนักรบบนดาวซาคาร์ เขาได้ต่อสู้กับ ไอรอนแมน มิสเตอร์แฟนแทสติกแห่งแฟนแทสติกโฟร์ และสมาชิกกลุ่มเอ็กซ์เมน ไม่มีใครหยุดความคลุ้มคลั่งของเขาได้ จนกระทั่งบรรดา ซูเปอร์ฮีโร่ถูกบังคับให้สวมพันธนาการเช่าเหล่านักรบบนดาวคาซาร์เพื่อจะได้ลิ้มรสชาติเดียวกับที่ฮัลค์เคยได้ประสบมาจากฝีมือของพวกเขา ที่ส่งฮัลค์ไปที่นั้น สถานการณ์เริ่มไม่ดีเมื่อมิสเตอร์แฟนแทสติกกำลังจะฆ่าไอรอนแมนระหว่างการประลอง ฮัลค์จึงได้แยกทั้งสองออกก่อนเผยว่าที่ตนทำลงไปนั้นเพียงเพื่อทวงความยุติธรรม หาได้ต้องการฆาตกรรมไม่ โดยเขาอยากให้โลกได้รับรู้ถึงด้านที่แท้จริง ของเหล่าฮีโร่ว่าคนเหล่านี้เป็นพวกลวงโ,ก ทรยศหักหลัง และฆาตกรเลือดเย็น ไม่ว่ามิสเตอร์แฟนแทสติกและไอรอนแมนจะพยายามอธิบายว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นในการระเบิดของยานที่ทำให้ลูกเมียฮัลค์ต้องตาย ฮัลค์ก็ไม่ฟังเลยแม้แต่น้อย จนในที่สุดไอรอนแมนได้รวบรวมพลังงานจากดาวเทียมทุกดวงเพื่อหยุดฮัลค์ได้สำเร็จ และฮัลค์ซึ่งกลับมาอยู่ในร่างของบรูซดังเดิมถูกนำมาคุมขังไว้ที่หน่วยชีลด์พร้อมกับนักรบกลุ่มวอร์บาวนด์ แต่พวกนักรบวอร์บาวนด์ก็หลบหนีออกมาได้ผ่านรอยแยกที่ฮัลค์ก่อไว้ในการประลองกลางเมืองนิวยอร์ก 

 

ในขณะที่บรูซถูกคุมขังอยู่ที่ฐานทดลองรังสีแกมม่านั้น เขาก็ได้ข่าวว่าอะโบมิเนชั่น คู่อริเก่าแก่ของฮัลค์ถูกฆาตกรรมอย่างปริศนาที่ประเทศรัสเซียบ้านเกิดเมืองนอน เขาจึงจัดตั้งทีมขึ้นโดยมีไอรอนแมนและนายพลเท็ดดิอุสรอสส์ เป็นหัวเรือออกสืบหาความจริง แต่กลับกลายเป็นว่าหลักบานชี้ตัวไปยังผู้ต้องสงสัยคนเดียว นั้นคือฮัลค์ หลังจากนั้นไม่นาน เรดฮัลค์ ผู้ร้ายตัวจริงก็เผยโฉม ขณะที่ทุกคนรวมถึง ริค โจนส์ ซึ่งอัพเกรดตัวเองขึ้นมาเป็น เอ-บอมม์ จากพลังงานลึกลับที่ได้รับมา กำลังต่อสู้กับเรดฮัลค์อยู่นั้นแรงสั่นสะเทือนจากการต่อสู้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก ทำลายที่คุมขังบรูซพังพินาศ เมื่อบรูซเป็นอิสระ ภยันอันตรายที่เกิดขึ้นได้สร้างความหวาดกลัวให้กับบรูซจนเขากลายร่างเป็นฮัลค์อีกครั้ง ด้วยความที่ฮัลค์ยังไม่สามารถจับการเคลื่อนไหว และสไตล์การต่อสู้ได้จึงพ่ายแพ้ในครั้งแรกจนกระดูกแขนหัก แต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มจับลีลาการต่อสู้ และโจมตีเข้าที่จุดอ่อนจนล้มเรดฮัลค์ลงได้ ต่อมาฮัลค์จึงคอยติดตามความเคลื่อนไหวของเรดฮัลค์เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายใดๆ อีก เขาสะกดรอยตามไปจนกระทั่งมารู้ตัวอีกทีก็อยู่ลาสเวกัส 

ณ ที่นี่เอง ฮัลค์ได้รับเสนอจาก แกรนด์มาสเตอร์ เซียนการพนันและหนึ่งในผู้ที่มีอายุมากที่สุดในโลก ว่าหากเขายอมเข้าร่วมเล่นเกมส์และชนะแกรนด์มาสเตอร์จะปลุกชีพ จาเรลล่า หญิงคนรักผู้ล่วงลับของฮัลค์ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ฮัลค์ยอมรับข้อเสนอแต่ขอเลือกทีมผู้เล่นด้วยตัวเอง ก่อนเกมส์จะเริม ลูกทีมแต่ละฝ่ายถูกจับคู่และแยกย้ายกันไปสู่สมรภูมิที่จัดไว้ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี จนกระทั้งเหตุการไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อเรดฮัลค์จบชีวิตของฮัลค์ด้วยการแทงสามง่ามเข้าที่ตัว แม้ว่าฮัลค์จะถูกแกรนด์มาสเตอร์ทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา แต่แน่นอนว่าในเกมส์นี้ ฮัลค์พ่ายแพ้อย่าราบคาบ นั้นแสดงว่าเขาต้องสูญเสียจาเรลล่า หญิงอันเป็นที่รักไปตลอดกาล.... 

 

หลังจากศึกครั้งนั้น บรูซได้ถูกจับตัวไปโดย โมด๊อค สิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นเพิ่อภารกิจฆ่าล้างโดยเฉพาะจากองค์กรโฉด A.I.M องค์กรที่รวบรวมนักวิทยาศาสตร์หัวกะทิเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไว้ยึดครองโลก เหล่าฮีโร่พยายามแทรกแซงฐานทัพใต้ดินของพวกมันเพื่อช่วยเหลือบรูซ โดยของแผนการของเอไอเอ็มคือการแฮ็กเข้าดาวเทียมที่ไอรอนแมนใช้เพื่อหยุดฮัลค์เมื่อครั้งที่เขาคลุ้มคลั่งถล่มเมืองนิวยอร์คเพื่อรวบรวมเกี่ยวกับเซลล์อาบรังสีแกมม่าของบรูซ ประกอบกับความช่วยเหลือของนายผลเท็ดดี้ รอสส์ ที่ทรยศบรรดาฮีโร่เข้าร่วมกับพวกเอไอเอ็ม เพื่อให้พวกมันสร้างกองทัพทหารที่ผ่านการอาบรังสีแกมม่าขึ้นได้เอง ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของพวกมันคือบุคลิกด้านชั่วร้ายของ ด๊อก แซมสัน เอ-บอมบ์ และเรดฮัลค์ นั้นเอง เมื่อบรูซเห็นว่าบรรดาฮีโร่ที่มาช่วยเขานั้นถูกศัตรูโฉดทั้งสามโจมตี ด้วยความโมโหเขาจึงกลายร่างเป็นฮัลค์การต่อสู้ระหว่างฮัลค์กับเหล่าร้ายส่งปลให้ฐานทัพใต้ดินเสียหายยับเยิน ก่อนที่เรดฮัลค์จะใช้พลังดูดรังสีแกมม่าออกจากตัวฮัลค์จนแห้งเหือด ส่งผลให้บรูซไม่สามารถกลายร่างได้อีกต่อไป 

เอ-บอมบ์ได้ช่วยบรูซหลบหนีออกมา ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิต บรูซได้เริ่มชีวิตใหม่ที่ปราศจากฮัลค์โดยสิ้นเชิง โดยที่แรกที่เขาไปคือบ้านของ รี้ด ริชาร์ด หรือมิสเตอร์แฟนแทสติก เพื่อเอาสมบัติส่วนตัวของฮัลค์กลับคืนมาและนำไปให้พวกสคารร์ ให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงวัยเด็กอันโหดร้าย ของบรูซที่มีส่วนทำให้เขากลายเป็นฮัลค์ แม้ว่าจะไม่สามารถกลายร่างเป็นฮัลค์ได้อีกต่อไป แต่เขาก็ยังถือเป็นตัวอันตรายอันเป็นผลจากสติปัญญาระดับอัจฉริยะของเขาเอง ซึ่งนั้นหมายถึงว่า ความร่วมมือกันอย่างลับๆ ระหว่างนายพลเท็ดดี้ รอสส์ และเรดฮัลค์ ก็คงไม่มีทางโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน  

 

ความสามารถของฮีโร่ 

จากการที่ บรูซ แบนเนอร์ โดนรังสีแกมม่าอาบทั้งร่าง ทำให้เขากลายร่างเป็นยักษ์เขียวฮัลค์ ยิ่งโกรธคลุ้มคลั่งมากเท่าไร เขาก็ยิงมีพละกำลังมากขึ้นเท่านั้น ไม่เพียงแต่พละกำลังเท่านั้น ยังรวมไปถึงความทนทาน ความอึด และการฟื้นฟูสภาพร่างกายให้เพิ่มขึ้นผันตรงระดับความรุนแรงของอารมณ์ด้วย 
นอกจากนี้ ฮัลค์ยังมีความต้านทานต่อการบาดเจ็บและการทำลายล้างทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนระดับแกนดวงอาทิต ระเบิดนิวเคียร์ หรือแม้แต่ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็ตาม โดยเขาสามารถปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายในสภาวะต่างๆ เช่น สร้างเนื้อเยื่อเพื่อหายใจใต้น้ำ และความสามารถในการอยู่ในอวกาศโดยปราศจากชุดและอุปกร์ต่างๆ ได้เป็นเวลานานๆ อีกทั้งเมื่อได้รับบาดเจ็บ เขายังสามารถสมานแผลทุกรูปแบบให้หายสนิทได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น 
ในขณะเดียวกัน ขาอันทรงพลังก็ทำให้เขาก้าวกระโดดได้ไกลข้ามทวีปเลยทีเดียว เขายังสามารถต่อต้านการถูกควบคุมทางจิต แข็งแกร่งมากขึ้นเมือ่ได้รับรังสีเพิ่ม รวมถึงสามารถมองเห็นและสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวได้ด้วย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น